MARMADUKE (2010) MOVIE REVIEW: MARMADUKE, THE FOUR-LEGGED, FOUR-TIMES-FUNNIER

Marmaduke (2010) Movie Review: Marmaduke, the four-legged, four-times-funnier

Marmaduke (2010) Movie Review: Marmaduke, the four-legged, four-times-funnier

Blog Article

รีวิวหนัง Marmaduke (2010) มาร์มาดุ๊ค สี่ขาฮาคูณสี่


Marmaduke-2010-Movie-Review

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง


ประเภทของภาพยนตร์ : ผจญภัย / ตลก / ครอบครัว


กำหนดฉายในประเทศไทย : 22 กรกฎาคม 2553


ผู้กำกับ : ทอม เดย์


นักแสดงนำโดย : โอเว่น วิลสัน ,ลี เพซ ,จูดี้ เกรียร์ ,วิลเลียม เอช. เมซี่ ,สตีฟ คูแกน ,แซม เอลเลียต


 

เรื่องย่อ : 


เล่าเรื่องราวของมาร์มาดุ๊ก สุนัขพันธุ์เกรทเดนผู้ร่าเริง อาศัยอยู่ในชนบทของรัฐแคนซัสกับคาร์ลอส แมวสายพันธุ์บาหลีที่เป็นเพื่อนซี้ เจ้าของของมาร์มาดุ๊กคือฟิล วินสโลว์ ผู้ทำงานเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของบริษัท Bark Organics ซึ่งผลิตอาหารสุนัข ฟิลเป็นคนจริงจังและเข้มงวดกับมาร์มาดุ๊กมาก เขาและเด็บบี้ ภรรยาของเขา มีลูกสามคน ได้แก่ บาร์บาร่า ไบรอัน และซาราห์

วันหนึ่ง คาร์ลอสบอกมาร์มาดุ๊กว่าเขาได้ยินฟิลพูดถึงการย้ายบ้านไปออเรนจ์เคาน์ตี้ เมื่อย้ายไปถึงที่ใหม่ ฟิลต้องพบกับหัวหน้าคนใหม่ที่สวนสุนัข ซึ่งหัวหน้าคนนั้นมีสุนัขคอลลี่แสนสวยชื่อเจเซเบล มาร์มาดุ๊กตกหลุมรักเธอทันที นอกจากนี้เขายังได้พบกับเมซี สุนัขพันธุ์ออสเตรเลียนเชพเพิร์ดที่เป็นมิตร ซึ่งพาเขาไปรู้จักกับเพื่อน ๆ ของเธอ ได้แก่ จูเซปเป้ สุนัขพันธุ์ไชนีสเครสเตดผู้ขี้อาย และเรซิน สุนัขดัชชุนด์ผู้รอบรู้ พวกเขาแนะนำให้มาร์มาดุ๊กรู้จักกับกลุ่มสุนัขหัวสูงในสวนสุนัข ที่นำโดยบอสโก สุนัขพันธุ์โบเซรอนใจร้าย และลูกสมุนพันธุ์มินิเจอร์พินเชอร์สองตัว ธันเดอร์และไลท์นิ่ง บอสโกเตือนมาร์มาดุ๊กให้อยู่ห่างจากเจเซเบล ซึ่งเป็นแฟนของเขา ดูหนังฝรั่ง

คืนนั้น มาร์มาดุ๊กพาสุนัขจรจัดไปร่วมงานปาร์ตี้สุดหรูของบอสโก แต่กลับถูกทำให้กลัวจนต้องหนีไป เมื่อมาร์มาดุ๊กขอให้เมซีช่วยหา "สาวในฝัน" ของเขา เมซีกลับเข้าใจผิดคิดว่าเป็นตัวเอง แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นเจเซเบล

เพื่อเพิ่มความนิยมให้ตัวเอง มาร์มาดุ๊กวางแผนให้คาร์ลอสแกล้งทำเป็นหลงในสวนสุนัข ทั้งคู่ทะเลาะกันต่อหน้าสุนัขตัวอื่น ๆ สร้างกระแสให้มาร์มาดุ๊กโด่งดังขึ้น เขายังเข้าร่วมการแข่งขันโต้คลื่นที่ฟิลจัดขึ้นเพื่อโปรโมตบริษัทเพทโก และเอาชนะบอสโก ซึ่งเป็นแชมป์โต้คลื่นคนปัจจุบันได้ แต่การทะเลาะกันระหว่างพวกเขากลับสร้างความตกตะลึงให้กับผู้บริหารเพทโก

ฟิลจึงตัดสินใจจ้างแอนตัน ผู้ฝึกสุนัขมืออาชีพมาควบคุมพฤติกรรมของมาร์มาดุ๊ก แม้ว่าความพยายามนี้จะไม่ค่อยได้ผลมากนัก แต่เรื่องราวความสนุก ความซึ้งใจ และมิตรภาพระหว่างมาร์มาดุ๊กกับเพื่อน ๆ ก็ยังคงเต็มไปด้วยสีสันที่ยากจะลืมเลือน

เรื่องราวของ มาร์มาดูค ยังคงเต็มไปด้วยความสนุกและบทเรียนชีวิตที่น่าประทับใจ โดยเหตุการณ์สำคัญเริ่มต้นขึ้นเมื่อมาร์มาดูคพาเจเซเบลไปออกเดทในสถานที่ที่เป็นความฝันของเมซี ซึ่งแอบเฝ้าดูอยู่จากระยะไกล ในขณะเดียวกัน ครอบครัววินสโลว์ก็อยู่บนเรือของดอน แต่ระหว่างนั้น มาร์มาดูคกลับจัดงานปาร์ตี้ใหญ่ขึ้นที่บ้าน โดยมีสุนัขส่วนใหญ่ในสวนสาธารณะมาร่วมงาน ยกเว้นเมซี จูเซปเป้ และเรซิน งานปาร์ตี้ถูกบุกโดยบอสโก หลังจากที่เขารู้ว่าคาร์ลอสอาศัยอยู่กับมาร์มาดูคและครอบครัววินสโลว์ บอสโกเปิดเผยความลับ ทำให้มาร์มาดูคสูญเสียความเชื่อใจจากเพื่อน ๆ

เมื่อครอบครัววินสโลว์กลับมาและพบว่าบ้านพังยับเยิน ฟิลจึงลงโทษมาร์มาดูคด้วยการขังเขาไว้ข้างนอก ด้วยความเศร้าใจ มาร์มาดูควิ่งหนีไปพร้อมกับทิ้งของเล่นที่เมซีเคยให้ไว้ ระหว่างการเดินทาง มาร์มาดูคได้พบกับ บัสเตอร์ สุนัขพันธุ์มาสทิฟอังกฤษชราผู้โดดเดี่ยว บัสเตอร์แบ่งปันเรื่องราวชีวิตที่ลำบากและให้กำลังใจมาร์มาดูคให้กลับไปหาครอบครัว แต่ระหว่างทาง มาร์มาดูคกลับหลงป่า

เช้าวันรุ่งขึ้น ครอบครัววินสโลว์และเมซีออกตามหามาร์มาดูคจนพบ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเมซีตกลงไปในท่อระบายน้ำ มาร์มาดูคกระโดดลงไปช่วยเธอ ฟิลและนักดับเพลิงร่วมกันพยายามช่วยเหลือเมซีและมาร์มาดูค แม้เมซีจะปลอดภัย แต่มาร์มาดูคกลับถูกกระแสน้ำพัดไป ฟิลตามหาเขาจนเจอ และในที่สุดก็ช่วยชีวิตเขาไว้ได้ วิดีโอการช่วยเหลือนี้ถูกเผยแพร่บน YouTube และกลายเป็นไวรัลด้วยยอดผู้ชมเกือบ 700,000 ครั้ง ฟิลได้รับการจ้างงานกลับมาที่บริษัทอีกครั้ง พร้อมกับได้โอกาสสร้างโฆษณาใหม่ให้กับ Petco

ในช่วงท้าย มาร์มาดูคแสดงให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของความเท่าเทียม โดยกล่าวว่าสุนัขทุกตัวไม่ควรแบ่งแยกและควรมีสิทธิ์เท่าเทียมในสวนสาธารณะ คำพูดของเขาสร้างความประทับใจให้กับสุนัขทุกตัว และถึงแม้บอสโกจะจากไปหลังจากเผยความลับว่าเขากลัวผึ้ง แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี

บทสรุปเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุข เมื่อมาร์มาดูค คาร์ลอส เจเซเบล เมซี และเพื่อน ๆ เต้นรำและร้องเพลง “What I Like About You” ซึ่งกลายเป็นโฆษณาสุดฮิต ในที่สุด มาร์มาดูคและเมซีก็ได้คบหากัน ขณะที่เขายังคงเป็นตัวตลกประจำบ้าน โดยฉากจบที่มาร์มาดูคผายลมบนเตียง เรียกเสียงหัวเราะเป็นอย่างดีจากทุกคน

เรื่องราวของมาร์มาดูคไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนาน แต่ยังแฝงไปด้วยมิตรภาพ ความรัก และบทเรียนชีวิตที่อบอุ่นใจ

 

ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์ : 


หลังจากชมภาพยนตร์ "Marmaduke" จบ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมักจะเป็นการผสมผสานระหว่างความสนุกสนาน อารมณ์อบอุ่น และการเรียนรู้บทเรียนชีวิตที่แฝงอยู่ในเรื่องราว นี่คือสิ่งที่อาจทำให้คุณรู้สึก: mvhd24.com

1. อารมณ์ขันและความเพลิดเพลิน


ภาพยนตร์เต็มไปด้วยฉากตลกที่สร้างเสียงหัวเราะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซนและความเปิ่นของมาร์มาดูค รวมถึงความน่ารักของตัวละครอื่น ๆ ทั้งคนและสัตว์ ทำให้เรื่องราวดูสดใสและน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ

2. ความอบอุ่นจากมิตรภาพ


การเห็นมาร์มาดูคพยายามสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ ๆ และการเรียนรู้คุณค่าของมิตรภาพ แม้ในยามที่เกิดความขัดแย้ง ย่อมทำให้ผู้ชมรู้สึกซาบซึ้งถึงความสำคัญของเพื่อนแท้ที่อยู่เคียงข้างกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

3. บทเรียนเกี่ยวกับครอบครัว


ความสัมพันธ์ระหว่างมาร์มาดูคและครอบครัววินสโลว์เน้นย้ำถึงการให้อภัยและความรักที่ไม่มีเงื่อนไข แม้จะมีความเข้าใจผิดหรือความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่สุดท้ายครอบครัวก็เป็นที่พึ่งพิงสำคัญเสมอ

4. แรงบันดาลใจในการยอมรับความแตกต่าง


หนึ่งในประเด็นสำคัญของเรื่องคือการยอมรับความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสุนัขสายพันธุ์ต่าง ๆ หรือความแตกต่างในตัวบุคคล การที่มาร์มาดูคพูดถึงความเท่าเทียมและทำให้เพื่อน ๆ ยอมรับในสิ่งที่แต่ละตัวเป็นนั้น สร้างความประทับใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม

5. ความสุขจากตอนจบที่แสนประทับใจ


ฉากจบของเรื่องที่เต็มไปด้วยเสียงเพลง การเต้นรำ และความสัมพันธ์ที่ลงตัวของตัวละครทั้งหมด ทำให้รู้สึกถึงความสุขที่เติมเต็ม และเป็นการปิดท้ายที่น่าพึงพอใจ

สรุป:


"Marmaduke" เป็นภาพยนตร์ที่ไม่เพียงมอบความบันเทิง แต่ยังสอดแทรกบทเรียนชีวิตที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า ทำให้ผู้ชมออกจากโรงภาพยนตร์ด้วยรอยยิ้มและความรู้สึกที่เบิกบานใจ

 

#ดูหนังฝรั่ง #Marmaduke #มาร์มาดุ๊คสี่ขาฮาคูณสี่

 

กลับด้านบน

Report this page